เมื่อวันอาทิตย์ รองนายกรัฐมนตรีของยูเครนเรียกร้องให้บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ทั้งหมดปิดกั้นaddressของผู้ใช้ชาวรัสเซีย แต่หลายคนปฏิเสธคำขอดังกล่าว
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยืนยันการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ 0.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางครั้งถัดไปในเดือนมีนาคมนี้
บิตคอยน์ กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นผู้นำทำกำไรในวงกว้างของแวดวงคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลยืนยันตัวเองว่าเป็นแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยและกลายเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสำหรับคนธรรมดา
ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในเดือนมีนาคม แต่อัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง
การคว่ำบาตรของชาวตะวันตกในชั่วข้ามคืนซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียและชาวยูเครนธรรมดาซึ่งเมืองต่างๆ ยังคงถูกปิดล้อมหันไปซื้อขายบิตคอยน์เพื่อพยายามและตอบสนองช่องว่างในระบบการเงินของพวกเขา
เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนักในวันจันทร์ (1 มีนาคม) ซึ่งร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน หลังจากที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปขับไล่รัสเซียออกจากระบบการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT
บิตคอยน์ ซึ่งส่งสัญญาณบางอย่างของการฟื้นคืนกลับมาอยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ร่วงหล่นลงไปอยู่ที่ 37,700 ดอลลาร์ขณะที่เขียนรายงานฉบับนี้ ส่วน Ether เองก็แทบจะไม่สามารถทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,600 ดอลลาร์
ด้วยอัตราเงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจหลักของสหรัฐฯ และยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้งานของธนาคารกลางต่าง ๆ มุ่งมั่นที่จะกระชับนโยบายการเงิน
ผู้เข้าร่วมอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีจำนวนมากขึ้นที่ต้องการรับชิ้นส่วนของอนุพันธ์ คริปโตที่ได้รับการควบคุม เพื่อตอบสนองความต้องการในภาคการค้าปลีก
การรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น แม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ตาม ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯกำลังเก็บงำไพ่ตายไว้อย่างมิดชิด