ค่าเงินดอลลาร์ ที่พลิกกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วหลังอ่อนค่ามากที่สุดในรอบสองปีเป็นต้นเหตุทำให้ตลาดคริปโตถูกเทขายหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมกับราคาทองคำที่ร่วงหลุดระดับ 2,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
หลังจากบิทคอยน์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ของปีที่ระดับเหนือ 12,000 ดอลลาร์มูลค่าตลาดของบิทคอยน์ก็แซงหน้าธนาคาร Bank of America และกำลังขยับเข้าใกล้เจ้าตลาดออนไลน์เพย์เมนท์อย่าง PayPal อีกด้วย
ผู้ก่อตั้ง Morgan Creek Digital เผย มาร์เก็ตแคปของบิทคอยน์จะแซงหน้าทองคำได้ภายในปี 2029 ส่วน Jim Rogers นักลงทุนชื่อดังเตือน วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่กำลังจะมาถึง
Grayscale ได้ประกาศถึงความสำเร็จครั้งใหม่หลังมีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนเพิ่มถึง 217 ล้านดอลลาร์ภายในอาทิตย์เดียวหลังปล่อยโฆษณาทีวีตัวใหม่สู่สาธารณะชน
BlackRock หนึ่งในบริษัทบริหารกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ลงทุนในบิทคอยน์ทางอ้อมผ่านบริษัทข่าวกรองทางด้านเศรษฐกิจ Micro Strategy ที่ได้เข้าถือบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองมูลจำนวน 21,454 BTC
ปริมาณการซื้อขายบิทคอยน์แบบ P2P พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เมื่อต้นปี 2018 ที่เป็นช่วงพีคของราคาบิทคอยน์ โดยมีวอลุ่มถึง 95 ล้านดอลลาร์
รายงานของ Kraken เว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯคาดการณ์ว่าราคาบิทคอยน์ (BTC) มีแนวโน้มจะขยับขึ้นระหว่าง 50-200% ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ค่าความสัมพันธ์ทางราคา (Price Correlation) ระหว่าง ทองคำ และ บิทคอยน์ แตะจุดสูงสุดตลอดกาลไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุดยืนอยู่ที่ระดับ 68.9%
ทองคำ ถูกเทขายอย่างหนักจาก Dollar Index ที่กลับมาแข็งค่า ส่วนตลาดคริปโตถูกเทขายหนักด้วยเช่นกัน แต่ภาพรวมของทั้งทองคำและคริปโตยังไม่สูญเสียโมเมนตัมของขาขึ้น
แม้กระแส DeFi กำลังโด่งดังในแวดวงคริปโตจากความนิยมและราคาที่พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อคำนึงถึงสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นตัวเก็บมูลค่าที่ดีได้แล้วนั้นหลายคนยังมองย้อนกลับไปหาคริปโตเคอเรนซี่ตัวพ่ออย่างบิทคอยน์