วิธีการได้ Bitcoin มาไว้ในครอบครอง นอกเหนือจากการไปซื้อมาจาก Exchange หรือแลกเปลี่ยนกันโดยตรงแล้ว ยังมีอีกวิธีซึ่งมีความนิยมสูงนั่นคือการ “ขุด”
ลองนึกภาพการขุดทองคำขึ้นมาใช้งาน ทองเป็นสิ่งที่มีค่าได้เพราะคุณสมบัติที่มีอยู่จำกัดบนโลกนี้ Bitcoin ก็เช่นกันถูกสร้างขึ้นมาให้มีจำนวนจำกัด 21 ล้านหน่วย ทำให้ Bitcoin เป็นสิ่งที่มีค่าในตัวได้นั่นเอง
ความหมายที่แท้จริงของการขุดคือการถอดรหัสหรือแก้สมการที่ผู้สร้างได้เขียนขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งรหัสหรือ Code ของ Bitcoin หรือเงินดิจิทัลอื่นๆ นึกภาพง่ายๆก็เหมือนกับการ Render ไฟล์ดิบอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้ไฟล์งานตามที่ต้องการมาใช้นั่นเอง จึงมีการเปรียบเปรยว่าเหมือกับการกับขุดทองออกมาจากเหมืองเพื่อใช้งาน
การถอดรหัสจำเป็นต้องใช้การประมวลผลของคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย การขุดเหรียญแต่ละเหรียญจะใช้ algorithm ไม่เหมือนกัน algorithm คือ วิธีการแก้โจทย์ของนักขุด อยู่ที่ว่าผู้สร้างของเหรียญนั้นอยากให้ใช้ algorithm อะไร และแต่ละ algorithm ก็เหมาะสำหรับเครื่องมือขุดที่แตกต่างกัน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการขุดประกอบไปด้วย
คอมพิวเตอร์พีซี
ใช้สำหรับประมวลผลและจัดเก็บ Bitcoin ที่ได้มาลงใน Wallet รวมถึงใช้บริหารจัดการระบบการขุดทั้งหมด จำเป็นจะต้องใช้เครื่องพีซีที่สเปคแรงพอสมควร ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่สามารถทำธุรกรรมได้ครบ
ฮาร์ดแวร์ประมวลผล
เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดเพราะจะเป็นเครื่องที่จะเข้ามาถอดรหัสเพื่อให้ได้มาซึ่ง Bitcoin ทั่วไปแล้วฮาร์ดแวร์ที่ใช้จะมีอยู่ด้วยกันสองแบบคือ
เครื่อง Asic (Application Specific Integrated Circuit)… เป็นฮาร์ดแวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อมาใช้ขุด Bitcoin โดยเฉพาะ ข้อดีคือมีกำลังการขุดที่ดีกว่าการใช้การ์ดจอ แต่มีข้อเสียคือเสียงที่ดังมากและมีความร้อนสูง ที่สำคัญคือเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้วจะไม่สามารถนำไปใช้งานอย่างอื่นได้อีกเลย
การ์ดจอ GPU (Graphical Processing Unit) … ก็คือการ์ดจอที่ปกติใช้ในการประมวผลเกมส์นั่นเอง เราสามารถนำมาใช้ประมวลผลการขุด Bitcoin ได้เช่นกัน ข้อดีคือใช้กำลังไฟที่น้อยกว่าและความร้อนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับ Asic สามารถทำได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในบ้านเรือน ข้อเสียคือมีกำลังการขุดที่น้อยกว่า แต่เมื่อสิ้นสุดการนำไปใช้ขุดแล้วยังสามารถขายต่อมือสองได้ โดยอาจนำไปใช้ประมวลผลอย่างอื่นที่ใช้กำลังลดลง
ความนิยมในการขุด Bitcoin ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ยอดขายการ์ดจอทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาขายด้วยเช่นกันและทำให้หุ้นของบริษัท NVIDIA ที่ผลิตการ์ดจอปรับตัวขึ้นสูงมากอีกด้วย
สายขุดยังต้องลงทุนในอุปกรณ์อื่นๆอีกด้วย เช่น เครื่องวัดไฟ เครื่องสำรองไฟ ฉนวนกันเสียง อุปกรณ์ที่ช่วยทำให้เครื่องขุดเย็นขึ้น (เช่น พัดลม แอร์) หรือ PSU (Power Supply ตัวจ่ายไฟให้พอกับปริมาณไฟที่ต้องใช้)
นอกจากขุดเองแล้ว ยังสามารถใช้บริการ Cloud Mining ซึ่งเป็นบริการที่เราช่วยกันแชร์ค่าขุดผ่านทางออนไลน์ได้เช่นกัน
หากคิดจะลงทุนขุดด้วยตัวเองในนามบุคคล ต้องระมัดระวังเรื่องของสถานที่และค่าไฟฟ้าให้มาก เพราะการขุดต้องใช้กำลังประมวลผลค่อนข้างมากทำให้ค่าไฟฟ้าในครัวเรือนอาจจะสูงเท่ากับการใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมเลยก็เป็นได้ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ที่ทางการเข้ามาตรวจจับเป็นจำนวนมาก
ต้องยอมรับว่าการขุด Bitcoin มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง บางเหมืองมีการลงทุนหลักร้อยล้านบาท เพราะต้องออกแบบระบบระบายความร้อน บางเหมืองต้องผลิตไฟฟ้าใช้เองถึงจะคุ้มค่า ถ้าไม่มีความรู้ทางด้านนี้แนะนำว่าให้ไปจับจังหวะซื้อ Bitcoin ช่วงที่ราคาตกแรงๆเอาดีกว่า
