กรมธนารักษ์สหรัฐอเมริกา กำลังทดสอบใช้บล็อกเชนในการติดตามและตรวจสอบการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือ

U.S. Deparment of the Treasury หรือ กรมธนารักษ์สหรัฐอเมริกา กำลังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่พึ่งเสร็จสิ้นการทดสอบไปเมื่อไม่นานมานี้ มาพัฒนาระบบการจัดการที่ใช้ดูแลบริหารภายในหน่วยงานโดยมีเป้าหมายในการศึกษาถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่จะนำมาใช้ประโยชน์ภายในองค์กร

Craig Fischer Innovation Program Manager ของ กรมธนารักษ์สหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่าภายในตอนนี้กระบวนการ Proof of Concept บนบล็อกเชนแพลตฟอร์มได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ออก Letter of Credit (L/C)  เพื่อใช้เป็นหลักฐานของผู้ที่รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งแพลตฟอร์มบล็อกเชนนี้จะทำการแปลง Letter of Credit (L/C) ให้อยู่ในรูปแบบ Token ซึ่งทำให้สามารถทำธุรกรรมแบบ P2P บนบล็อกเชนแพลตฟอร์มได้ ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรม

ในส่วนของรายละเอียดของการพัฒนาระบบนั้น Craig Fischer ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุมในประโยชน์ของการออก Letter of Credit (L/C) ด้วยบล็อกเชนแพลตฟอร์ม โดยจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องรวมถึงการระบุจำนวนผู้รับเงิน มูลค่าของเงินสนับสนุนที่ได้รับไป ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามสถาณะการให้เงินช่วยเหลือกับผู้รับเหล่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถตรวจสอบและติดตามสถาณะของเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ให้ดูแลรับผิดชอบเงินช่วยแหลือดังกล่าวอีกด้วย

ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการจัดการรูปแบบในการดำเนินงาน ทำให้กระทรวงการคลังสามารถที่จะตรวจสอบการจ่ายเงินออกของหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ไปยังผู้รับเงินสนับสนุนได้ โดยที่ผู้รับจำเป็นต้องมี Wallet ที่เชื่อมกับบัญชีธนาคาร เพื่อใช้ในการเก็บสินทรัพย์ดิจิตอลประเภทต่างๆ

ขณะที่มีการรายงานข้อมูลจาก Fobes สำนักข่าวจากสหรัฐอเมริกา ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับผลสรุปของโครงการรับบริจาคที่จัดขึ้นโดยองค์ American Cancer Society ซึ่งมียอดบริจาครวมกว่า $427.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรายละเอียดของผลสรุปมีการจัดอันดับ 100 องค์กรที่บริจาคสูงที่สุด คิดเป็นมูลค่า 51.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการชำระด้วยบิทคอยน์มากถึง 12% ของยอดบริจาคดังกล่าว

องค์กรส่วนมากนิยมที่จะทำธุรกรรมผ่าน Bit Pay ผู้ให้บริการธุรกรรมทางด้านสินทรัพย์ดิจิตอล และหลังการบริจาคเงินขององค์กรการกุศลเริ่มรองรับการบริจาคด้วยเหรียญบิทคอยน์ (Bitcoin) กันมากขึ้น องค์กรการกุศลก็ได้ปรับตัวและเริ่มรองรับการบริจาคจากประชาชนด้วยเช่นกัน โดยมากกว่า 90% ขององค์กรการกุศลทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มให้บริการดังกล่าวแล้ว

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ผู้ร่างกฎหมายในนิวยอร์กเตรียมผลักดันให้สร้างสกุลเงินดิจิตอลของตนเองแบบ Peer-to-Peer