fbpx
Skip to content Skip to footer

(วิเคราะห์) นอกจาก Facebook จะมีใครสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองได้อีก

Libra

Libra สกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดย Facebook ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียของโลกกำลังจะเปิดตัวให้ใช้งานกันแล้วภายในปีนี้ หลังจากกลับไปปรับปรุง Whitepaper ใหม่ให้รองรับกฎระเบียบทางการเงินมากขึ้น

แต่นอกจาก Libra แล้ว เป็นไปได้อีกไหมว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆจะหันมาสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองบ้าง โดยเฉพาะ Tech Giant ที่มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง มีจำนวนผู้ใช้งานกว่าพันล้านรายทั่วโลก ทุกรายต่างมีศักยภาพในการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางธุรกิจ

เมื่อสำรวจความเป็นไปได้และการแสดงออกเกี่ยวกับเงินดิจิทัลที่ผ่านมา น่าจะพอวิเคราะห์ได้ประมาณนี้ 

กลุ่มที่มีเกิดขึ้นแล้วและรอการต่อยอด: Line

Tech Giantที่มีโอกาสสูงมากที่จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองขึ้นมาก็คือ Line แอปแชทชื่อดังที่มีฐานผู้ใช้อยู่ในเอเชียโดยเฉพาะญี่ปุ่น ไต้หวันและประเทศไทย 

Line มีความพยายามที่จะพาตัวเองเข้าสู่ธุรกิจการเงินเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ขอไลเซ่นส์การเป็นธนาคารออนไลน์ในไต้หวัน จับมือร่วมกับธนาคารกสิกรไทยในการให้บริการทางการเงิน ส่วน Line ในประเทศญี่ปุ่นสามารถโอนเงินหากัน ซื้อหุ้น ซื้อประกัน ได้หมด

ที่สำคัญคือ Line ได้ยื่นขอไลเซ่นส์การเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ Bitbox และด้วย Ecosystem และช่องทางรายได้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขายสติ๊กเกอร์ (ปกติใช้เหรียญในการแลกอยู่แล้ว) รวมถึงการเป็น Marketplace สำหรับการขายของออนไลน์

จึงไม่เป็นที่แปลกใจที่ Line จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองมาใช้ในระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ ซึ่ง Line ได้ทำการเปิดตัวเหรียญคริปโตของตัวเองชื่อ Link ขึ้นตั้งแต่ปี 2018 รวมถึงตั้งกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล Unblock Ventures ที่เน้นลงทุนในสตาร์ทอัพสายบล็อกเชน

อย่างไรก็ตามเหรียญ Link ของ Line ยังไม่เป็นที่ใช้งานในวงกว้างมากนักอาจเป็นเพราะ Line เลือกที่จะทำตามกฎระเบียบทางด้านการเงินของแต่ละประเทศทำให้ Link มีการใช้งานอยู่เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น แม้แต่ญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้เปิดตัวแต่อย่างไร

ถึงอย่างไรเราน่าจะได้เห็นพัฒนาการของสกุลเงินดิจิทัลของ Line มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน เมื่อเห็นนโยบายธุรกิจที่เน้นในด้านคริปโตและบล็อกเชนขนาดนี้

บทความอื่นที่น่าสนใจ : (วิเคราะห์) จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Facebook Shop กับ Libra 2.0 ผนึกกำลังกัน

Libra line

กลุ่มที่มีศักยภาพและมีลุ้นที่จะสร้างออกมา : Twitter Alibaba Tencent 

หากจะมองหาผู้ก่อตั้งหรือซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของเงินดิจิทัลมากที่สุดคงต้องยกให้ Jack Dorsey ซีอีโอของ Twitter อย่างแน่นอน เขาถึงกับสร้างไอคอนพิเศษให้กับผู้ที่ติดแฮชแท็ก #BTC หรือ #Bitcoin จะมีโลโก้บิทคอยน์ขึ้นมา

Twitter ยังเป็นโซเชียลมีเดียที่ถูกใช้เป็นสังคมของผู้ที่อยู่ในสังคมของเงินดิจิทัลเช่นเดียวกับ Telegam ขณะที่รูปแบบรายได้ก็มาจากค่ายิงโฆษณาเช่นเดียวกับ Facebook 

แม้จำนวนผู้ใช้งานจะไม่มากเท่ากับ Facebook แต่ด้วยกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้เงินดิจิทัล จึงเป็นไปได้เช่นกันที่ Twitter จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง 

อย่างไรก็ตาม Jack Dorsey ซีอีโอของ Twitter ไม่เคยออกมาพูดถึงการสร้างเงินดิจิทัลเป็นของตัวเองเลย ถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็อาจต้องใช้คำว่าเซอร์ไพร์ส

ทางด้าน Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ที่กลายมาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจการเงินด้วยการเป็นเจ้าของ Ant Financial ฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากเป็นเจ้าของระบบชำระเงิน Alipay ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่าพันล้านราย ยังเป็นเจ้าของธนาคารออนไลน์ที่เน้นปล่อยกู้เอสเอ็มอีอย่าง WeBank อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่สักวัน Alibaba จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลใช้ใน Ecosystem ของตัวเอง 

เช่นเดียวกับ Tencent ที่มีรากฐานมาจากผู้ผลิตเกมส์และ App Chat อย่าง WeChat แต่ก็เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มชำระเงินที่มีผู้ใช้หลักพันล้านรายอย่าง WeChat Pay รวมถึงธนาคารออนไลน์อย่าง MyBank 

เหตุผลที่ Alibaba และ Tencent จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองขึ้นก็เพราะประเทศจีนได้ยกระดับเรื่องการพัฒนาบล็อกเชนขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติซึ่งทั้งสองบริษัทได้มีการจดสิทธิบัตรและถือหุ้นในสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนไว้จำนวนมาก 

ที่สำคัญจีนกำลังจะเปิดตัวสกุลเงินหยวนดิจิทัลออกมาในปีนี้ การจะเร่งขยายฐานผู้ใช้งานให้ครอบคลุมทั่วประเทศและทั่วโลกอย่างรวดเร็วจำเป็นต้องพึ่งพาผู้ใช้งานของทั้ง Alibaba และ Tencent อย่างแน่นอน

จึงมีความเป็นไปได้ไม่น้อยที่ Alibaba และ Tencent จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับเงินหยวนดิจิทัลของรัฐบาล

บทความอื่นที่น่าสนใจ : การมาของ “หยวนดิจิทัล-ลิบรา” เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตคนไทย เราควรเรียนรู้อะไรจากมัน

Twitter Libra

กลุ่มที่มีศักยภาพแต่ไม่น่าจะสร้างออกมา: Google Apple Amazon Starbucks

หากจะหาผู้ที่เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Facebook มากที่สุดคงหนีไม่พ้น Google อย่างแน่นอน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานหลักพันล้านรายทั่วโลกเช่นกัน แม้ว่า Google จะไม่ได้สร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยตรง 

แต่ด้วย Ecosystem ทางด้านดิจิทัลที่แถบจะครบถ้วนสมบูรณ์และมีรายได้หลักมาจากโฆษณา ตั้งแต่ Search Engine,Youtube และล่าสุดกับธุรกิจเกมส์อย่าง Stadia จึงไม่แปลกใจที่ Google คิดจะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองขึ้นบ้าง 

แต่หากดูจากทัศนะคติที่มีต่อ Cryptocurrency ของ Google อาจจะเป็นไปได้ยากที่จะสร้างเงินดิจิทัลขึ้นมา เช่น การแบนช่อง Youtube ที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลรวมถึงการถอดแอปพลิเคชั่นด้านคริปโตออกจาก Google Pay 

ฟันธงว่าคงไม่ได้เห็นสกุลเงินดิจิทัลของ Google ค่อนข้างแน่นอน

Libra google

ทางด้าน Apple ก็มี Ecosystem ของตัวเองที่มั่นคงและเหนียวแน่นและมีแฟนพันธ์แท้ทางด้านฮาร์ดแวร์อย่างไอโฟน รวมถึงมีจำนวนผู้ใช้งานระดับพันล้านคนทั่วโลกเช่นกัน 

ปัจจุบัน Apple กำลังมุ่งสร้างรายได้จากซอฟท์แวร์มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพารายได้จากการจำหน่ายไอโฟนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายแอปพลิเคชั่นบน Apple Store และล่าสุดกับการรุกเข้ามาในธุรกิจคอนเทนท์อย่าง Apple TV 

เคยมีคำกล่าวว่า Apple มีศักยภาพในการเป็นธุรกิจการเงินได้ในตัวเองจากการที่เป็นแพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ตาม Apple ได้พัฒนาแพลตฟอร์มทางการเงินของตัวเองในชื่อ Apple Pay และต่อยอดไปถึง Apple Card ซึ่งเป็นบัตรเครดิตที่จับมือกับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs และ Mastercard ชูจุดเด่นเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ 

การที่ Apple จับมือกับสถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง Goldman Sachs ซึ่งค่อนข้างมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคริปโต ขณะที่ Mastercard ก็ถอนตัวออกจากสมาคม Libra แล้ว จึงเป็นไปได้ยากที่จะเห็น Apple มาข้องเกี่ยวกับเงินดิจิทัล

Libra apple

ขณะที่ Amazon และ Starbucks ต่างมีฐานผู้ใช้งานระดับพันล้านรายทั่วโลกทั้งสิ้น โดยเฉพาะ Starbucks ทีมียอดเงินอยู่ในบัตรสมาชิกมากกว่าธนาคารเสียอีก หากผู้บริหารคิดจะต่อยอดเม็ดเงินตรงนี้ก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก 

อย่างไรก็ตามทั้งสองบริษัทไม่เคยให้ความสนใจในเงินดิจิทัลมาก่อน แม้จะมีฟินเทคบางรายที่พัฒนาระบบให้สามารถซื้อกาแฟ Starbucks ได้ด้วยคริปโต แต่บริการนี้ก็ไม่ได้เป็นนโยบายหลักของ Starbucks 

เช่นเดียวกับข่าวที่ว่าจีนได้ทดลองให้สามารถซื้อกาแฟ Starbucks ได้ด้วยหยวนดิจิทัล แต่ก็เป็นเพียงการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าเท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง 

ขณะที่ Amazon ช่วงหลักๆสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจ Cloud และ AWS ในระดับเดียวกับอีคอมเมิร์ซแล้ว จึงดูไม่จำเป็นที่จะต้องมีสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง

สรุปคือเราคงไม่มีทางได้เห็นสกุลเงินดิจิทัลจากสองยักษ์ใหญ่จากฝั่งสหรัฐฯสองรายนี้

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : บิทคอยน์-ลิบรา-หยวนดิจิทัล ใครจะได้ปกครองระบบการเงินโลกใหม่

เวลานี้สกุลเงิน Libra ของ Facebook อาจจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพียงหนึ่งเดียวที่ออกมาจากภาคเอกชนที่เป็น Tech Company แต่หากประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับทั่วโลกก็อาจเป็นไปได้ว่าเราจะเห็นสกุลเงินดิจิทัลที่มาจากบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้นเช่นกัน

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN