fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

จำนวนการฝากบิทคอยน์เข้าไปยัง Exchange หล่นวูบ นักลงทุนไม่คิดเทขาย แถมยังกักตุนเพิ่ม

ราคาของบิทคอยน์ แม้จะฟื้นตัวจากระดับ Swing-low ที่ 3,850 ดอลลาร์มาซักพักแล้ว แต่ปัจจัยด้านราคาก็ยังดูไม่สดใสนัก หลังจากไม่สามารถทวงคืนแนวรับสำคัญบริเวณ 7,000 – 7,400 ดอลลาร์ได้ แม้ด้านปัจจัยพื้นฐาน การ Halving กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่ถึงเดือน แต่หลายฝ่ายก็กังวลว่านี่อาจเป็นการ Halving ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบิทคอยน์

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ Glassnode เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลบนบล็อกเชนของเงินดิจิทัลชี้ให้เห็นว่า วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา มีจำนวนการฝากบิทคอยน์เข้าไปบน Exchange ลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 777 รายการฝากใน 1 ชั่วโมง โดยทำลายสถิติเก่าไปจากเมื่อสามปีก่อนในปี 2017 ที่มีปริมาณรายการฝากเฉลี่ย 794 รายการใน 1 ชั่วโมง

แล้วการฝากบิทคอยน์เข้าไปบน Exchange นี้สะท้อนให้เห็นถึงอะไร? เหตุผลหลักที่ผู้ใช้นำบิทคอยน์จากกระเป๋าเงินส่วนตัวไปฝากไว้บน Exchange คงจะหนีไม่พ้นการนำไปฝากไว้เพื่อรอ “ขาย” เพราะถ้าหากต้องการเก็บถือยาวแล้ว คนส่วนใหญ่ก็ทิ้งมันไว้นกระเป๋าเงินส่วนตัวของตัวเองอยู่อย่างนั้น จำนวนการฝากเข้าไปยัง Exchange ที่ลดลงนี้จึงสะท้อนให้เห็นได้ว่า นักลงทุนมีความต้องการขายบิทคอยน์น้อยลงในช่วงราคาและเวลาของปัจจุบันนั่นเอง

นอกจากนี้ ทาง Glassnode ยังให้ข้อมูลอีกว่า จำนวนกระเป๋าสตางค์ (Wallet) ที่มีบิทคอยน์มากกว่า 0.1 BTC (ประมาณ 22,000 บาท) นั้นพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน (14 เมษายน 2020) มีจำนวนกว่า 2,978,352 Address และจำนวนกระเป๋าสตางค์ที่มีบิทคอยน์มากกว่า 1 BTC (ประมาณ 222,000 บาท) ก็เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ด้วยเช่นกัน โดยขณะนี้มีจำนวนกว่า 804,091 Address

ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยไม่คิดจะขายบิทคอยน์ในช่วงราคานี้ หรืออย่างน้อยก็เร็ว ๆ นี้ และยังทำการซื้อเก็บบิทคอยน์มากขึ้นเรื่อย ๆ จากจำนวนกระเป๋าสตางค์ที่เพิ่มขึ้น อันเป็นตัวสะท้อนว่าราคาบิทคอยน์ตอนนี้มันต่ำกว่าความคาดหวังของนักลงทุนอันจะส่งผลให้แรงขายจากรายย่อยลดลงอย่างแน่นอน

โดยราคาของบิทคอยน์ที่ดูจะไม่สดใสนักในช่วงนี้ มีผลส่วนใหญ่มาจากการที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่เทขายจากความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัส COVID-19 จึงต้องทำการลดขนาดสินทรัพย์เสี่ยง (Risky Asset) อย่างเงินดิจิทัลลง และด้านนักขุดบิทคอยน์ (Miners) ที่กำลังทำสงครามราคา พยายามกดราคาของบิทคอยน์ให้ต่ำกว่าต้นทุนการขุด เพื่อจะกำจัดผู้เล่นรายเล็ก หรือรายที่มีต้นทุนสูงออกจากตลาด เนื่องจากการ Halving ที่กำลังจะถึงนี้ จะส่งผลให้รายได้ของเหล่านักขุดลดลงเป็นอย่างมาก การกำจัดคู่แข่งเสียตั้งแต่ตอนนี้จึงดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเหมืองขุดขนาดใหญ่และเหล่านักขุดที่มีสายป่านยาวนั่นเอง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: วิกฤตโควิด-19 กับการแจ้งเกิดของเงินดิจิตอลและบล็อกเชน

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN